Update Business News

Update Tourism News

ททท. เปิดแผนตลาดฯ ปี 67 เร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยสู่บทต่อไปที่เน้นคุณค่า สมดุลและยั่งยืน พร้อมดันรายได้ท่องเที่ยวให้ประเทศรวม 3 ล้านล้านบาท

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วยนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. ร่วมแถลงทิศทาง การส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ปี 2567 ประกาศเร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยสู่บทต่อไปที่ดีขึ้น (Moving forward to Better) ทั้งฝั่ง Supply และ Demand ด้วยหัวใจหลักของการสร้างระบบนิเวศใหม่ที่มีคุณค่า สมดุลและยั่งยืน พร้อมเสริมภูมิคุ้มกันสร้างความมั่นคงทางการท่องเที่ยว ก้าวสู่ High Value and Sustainable Tourism อย่างแท้จริง มั่นใจฟื้นรายได้สูงสุด 3 ล้านล้านบาท เทียบเท่าปี 2562 โดยได้รับเกียรติจากนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานกล่าวเปิดงาน พร้อมด้วยนายอารัญ บุญชัย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และคณะกรรมการ ททท. รวมถึงภาคเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เข้าร่วมงาน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ปี พ.ศ. 2567 ถือเป็นปีแห่งการเร่ง “ฟื้นฟู” (Resilience) พร้อมพลิกโฉมสู่ High Value and Sustainable Tourism ที่เน้นคุณค่าและความยั่งยืน ททท. จึงได้ยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและ ททท. แบบ Moving forward to Better เดินหน้าต่อเนื่องสู่ก้าวต่อไปของการท่องเที่ยวไทยที่ดียิ่งขึ้น โดยมีหัวใจสำคัญอยู่ที่การสร้างระบบนิเวศทางการท่องเที่ยวใหม่ New Ecosystem ด้วยการลดการพึ่งพานักท่องเที่ยวจำนวนมาก สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง พัฒนาห่วงโซ่อุปทานร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมฯ ให้พร้อมรับกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ รวมทั้งกระจายรายได้สู่ฐานรากอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม เพื่อให้เกิดความสมดุลทั้งมิติความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ มิติสังคมอยู่ดีมีสุข มิติสิ่งแวดล้อมที่ดี และมิติภูมิปัญญา

อีกหนึ่งในความพยายามของ ททท. คือ การสร้าง“ความมั่นคงทางการท่องเที่ยว” หรือ Tourism Security เพื่อให้มั่นใจว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจะเติบโตอย่างเข้มแข็ง “ล้มให้เป็น” “ลุกให้ไว” และ “ไปต่อ” อย่างมีภูมิคุ้มกันระยะยาว สามารถเผชิญวิกฤติเชิงซ้อน (Polycrisis) ที่เกิดขึ้นได้ จึงมุ่งมั่นเสริมทัพด้วย 4 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ 1) เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่อุปทานบนพื้นฐานของคุณภาพและความยั่งยืน สอดรับกับความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ และกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม 2) พัฒนาปัจจัยสนับสนุนการท่องเที่ยวและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยว เอื้อต่อการเดินทางอย่างสะดวก

และปลอดภัย เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดี มีคุณค่าอย่างเท่าเทียม ทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ 3) ใช้ประโยชน์จากการปรับเปลี่ยนสู่โลกดิจิทัล เพิ่ม Digital Literacy ลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล เน้นการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มมูลค่าและความยั่งยืน และสุดท้าย 4) ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการความเสี่ยงภายนอก อย่างมีประสิทธิภาพ

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2567 ททท. จะให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการสานต่อการ “สร้างประสบการณ์ทรงคุณค่า” เพื่อส่งมอบให้กับกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีความต้องการแตกต่างกัน โดยคำนึงถึง Sub-culture Movement และ Partnership 360o ประสานความร่วมมือกับทุกพันธมิตรผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในห่วงโซ่อุปทาน เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย “มุ่งสู่ความยั่งยืน”

เริ่มต้นกันที่ ตลาดต่างประเทศ ททท. วางแผนกระตุ้นตลาดด้วย 5 ทิศทางหลัก ได้แก่ เสริมภาพลักษณ์ แบรนด์ท่องเที่ยวไทยด้านความยั่งยืนและใช้เป็นจุดขายใหม่ของประเทศไทย เน้นไม่สร้างภาระ แต่สร้างสาระรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อมและชุมชน (Travel with Care) กระจายรายได้อย่างทั่วถึง (Fair Income) และเสนออัตลักษณ์ท้องถิ่นเป็นจุดขาย (Encourage Identity & Biodiversity) โดย ททท. มีแนวคิดดำเนินโครงการ Kinnaree Brand Refresh ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้รู้จักรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยหรือรางวัลกินรี ในวงกว้าง เพื่อเป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวภายใต้มาตรฐาน การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (Responsible Tourism) รุกเปิดตลาดคุณภาพใหม่ให้ท่องเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โฟกัสตลาดใหม่ในภูมิภาคยุโรปและตะวันออกกลาง และขยายสู่กลุ่มตลาดย่อย ซึ่งเป็นผู้มีรายได้สูง แสวงหาคู่ค้ารายใหม่และขยายความร่วมมือกับคู่ค้ารายใหญ่ในเวทีโลก เช่น Tourism Cares ของสหรัฐอเมริกา OTA ชั้นนำ หรือ Platform การชำระเงินยอดนิยมต่าง ๆ ขยายการเดินทางเชื่อมโยงทางบกเข้าถึงประเทศไทย เช่น เส้นทางรถไฟความเร็วสูง จีน-เวียงจันทน์ (ลาว) - ไทย และ ใช้ Digital Content เสริมพลังทางการตลาด เช่น เกาหลีใต้ ใช้ Virtual influencer คือ น้อง Rozy นำเสนอประสบการณ์ท่องเที่ยวไทยชวนนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมาย Gen Y – Z มาเที่ยวไทย

ส่งไม้ต่อไปที่ “ไทยเที่ยวไทย” ตลาดในประเทศ ททท. ให้น้ำหนักไปที่การกระตุ้นให้เที่ยวไทยทันที เพิ่มความถี่และการกระจายตัวท่องเที่ยวหลากหลายพื้นที่มากขึ้น เป็น 365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทยเที่ยว ได้ทุกวัน ตลอดทั้งปี เพื่อสร้างรายได้ให้ทุกภาคส่วนอย่างเท่าเทียม ควบคู่กับการนำเสนอจุดแข็งสู่จุดขาย ของ Soft Power (5F) และนำเสนอสินค้าเชิงประสบการณ์ผ่านอัตลักษณ์ของ 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ เกิดเป็น Meaningful Travel ประกอบด้วย ภาคเหนือ ชวนสัมผัส “เสน่ห์วันวานเมืองเหนือ” ผสานความร่วมสมัย ผ่าน Northern Thailand Soft Power ที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์ กระตุ้นค่าใช้จ่ายด้วย Art & Craft ขยายฤดูกาลท่องเที่ยว ภาคกลาง เสิร์ฟความสุขง่าย ๆ ใกล้ตัวจากสุขภาพดี เรื่องราวดีๆ งานดี เที่ยวดี และสบายใจดี ให้กับผู้เยี่ยมเยือน ภายใต้แนวคิด 4HD (4 Happy-Definition) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดประสบการณ์อาหารถิ่น และ Michelin Guide ชวนคนไทยเที่ยวอีสานในคอนเซปต์ “อีสาน...ไปไสกะแซ่บ มากกว่าอาหาร คือ

ประสบการณ์” ผ่าน 20 เมนูแซ่บ จาก 20 จังหวัดภาคอีสาน ภาคตะวันออก นำเสนอคุณค่าประสบการณ์ท่องเที่ยวผ่านเรื่องราว “Story สบ๊ายสบาย Plus” ด้วยประสบการณ์ท่องเที่ยว ยืนหนึ่งเรื่องกิน สุดฟินเรื่องสบาย จิตผ่อนคลายสายมู และเรียนรู้เรื่องรักษ์ และภาคใต้ ไปหรอยแรง ตอกย้ำประสบการณ์ท่องเที่ยวหลากหลาย 14 สไตล์ 14 จังหวัด ให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวภาคใต้ตามสไตล์ตัวเองได้ตลอดทั้งปี

ด้านสื่อสารการตลาด ปี 2567 ยังคงดำเนินการภายใต้แบรนด์ “Amazing Thailand” โดย ททท. จะชวนคนไทยออกไปสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวครั้งใหม่ที่เต็มไปด้วยความสุขแบบทันทีและมีความหมาย กับแคมเปญ “โมเมนต์ที่ใช่...สร้างได้ไม่ต้องรอ” เพื่อออกไปหา “สุขง่ายๆ ได้ทันที ที่เที่ยวไทย” และแคมเปญ “Meaningful Relationship” ของตลาดต่างประเทศ เสนอมุมมองการเดินทางท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความหมาย สร้าง Meaningful Connections จากการมีส่วนร่วมกับพื้นที่และผู้คน จนเกิดเป็นความประทับใจ มิตรภาพ นำไปสู่การแบ่งปัน (Give & Get) และเกิดการเดินทางซ้ำ ไม่เพียงเท่านั้น ททท. จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งของ Soft Power ของประเทศไทย ผ่านการทำงานร่วมกันกับภาคเอกชนในแคมเปญ Brand Collaboration : Amazing Thailand x 5F ซึ่งสอดรับกับความตั้งใจของ ททท. ที่มุ่งมั่นให้ปี 2567 เป็น Year of Meaningful Collaboration ที่พันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะช่วยกันผลักดันให้เกิด Synergy เสริมกำลังซึ่งกันและกัน เกิดเป็น Super Power ที่จะผลักดันให้การท่องเที่ยวไทย สังคมไทยและคนไทยเติบโตไปด้วยกันอย่างมีความสุขและยั่งยืน

ทั้งนี้ ททท. ตั้งเป้าหมายอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ปี 2567 ผลักดันรายได้ในระดับใกล้เคียงกับรายได้ที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยได้รับในปี 2562 ก่อนสถานการณ์การเผยแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยบนพื้นฐานของสถานการณ์ท่องเที่ยวที่มีปัจจัยเอื้ออำนวยในทุกด้าน (Best Case Scenario) จะมีรายได้จากการท่องเที่ยว รวมทั้งสิ้น 3 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากต่างประเทศ 1.92 ล้านล้านบาท ดึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าไทยจำนวน 35 ล้านคน ขณะที่ตลาดในประเทศ สร้างรายได้หมุนเวียน 1.08 ล้านล้านบาท จากการเดินทางท่องเที่ยว ในประเทศของคนไทย 200 ล้านคน-ครั้ง

ADD

คุณอักษรา ชีวรัตนพร (คุณมิน) ผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลแห่งซูเปอร์ทริปส์

คุณอักษรา ชีวรัตนพร (คุณมิน) ผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลแห่งซูเปอร์ทริปส์ (มินไม่แน่ใจอ่านแล้วค่อนข้างชมไปไหมคะพี่ ขอบพระคุณค่ะ) คุณอักษรา ชีวรัตนพร คุณมิน Managing Director บริษัทซูเปอร์ทริปส์ จำกัด, Executive Assistant to the President บริษัทควอลิตี้ เอ็กซ์เพรส จำกัด ทายาทบริษัททัวร์อันดับต้นของประเทศไทย จบการศึกษาทางกฎหมายจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาโทที่ Durham University, UK และ University of Hong Kong ถึงแม้จะจบและทำงานในสายงานด้านกฎหมายมาก่อน แต่ด้วยไลฟ์สไตล์และความชอบหลักคือการท่องเที่ยวที่สอดคล้องกับธุรกิจของที่บ้าน ทำให้ระหว่างที่ศึกษาและทำงานอยู่ มินได้ออกแบบและวางแผนการเดินทางและเดินทางไปในหลากหลายเส้นทางทั่วโลก นึกถึงการท่องเที่ยวและการเดินทาง ขอให้นึกถึง บริษัท ซูเปอร์ทริปส์ นะคะ เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะดูแลท่านให้ดีที่สุดในการเดินทางแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในรูปแบบใดๆเราจะตอบโจทย์ให้ลูกค้ามีความสุขในการเดินทางของท่าน ยินดีบริการค่ะ บริษัท ซูเปอร์ทริปส์ จำกัด โทร 02 511 5999 www.supertrips.co.th

คุณธนิต ปริพัฒนานนท์ และคุณน้ำทิพย์ โพธิ์เหลือง ผู้บริหารคนเก่งแห่ง Superb Holiday

คุณธนิต ปริพัฒนานนท์ หรือคุณออม “CEO”แห่ง Superb Holiday คุณออมได้เปิดบริษัทเป็นกรรมการร่วมกับ คุณน้ำทิพย์ โพธิ์เหลือง ซึ่งคุณน้ำทิพย์ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการ ผู้จัดการคุณออมและคุณทิพย์สำเร็จการศึกษาทางด้านการท่องเที่ยว ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม คุณทิพย์เป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย คุณออมได้เล่าให้ “BIZ”ON HOLIDAY MAGAZINEฟังต่อว่า จบมา อายุ 22 ปี ฝึกงานบริษัททัวร์ก่อนจบตามกำหนดของมหาวิทยาลัย และได้ทำงานที่บริษัททัวร์ต่อเลย ซึ่งคุณออมกับคุณทิพย์ทำงานที่ บริษัททัวร์ที่เดียวกัน ได้ทำงานที่บริษัททัวร์มาเป็นเวลา 4 ปี จึงตัดสินใจ เปิดบริษัททัวร์ร่วมกัน ในนามบริษัท พีแอลอินเตอร์ทัวร์ จำกัด และ ทำการตลาดในนาม Superb Holidayบริษัทได้ก่อตั้งมา 7 ปีแล้ว เริ่มแรกทำสิงคโปร์ ในเวลาต่อมาเพิ่มมาเลเซีย บาหลี ลักษณะ การทำงานของ Superb Holiday จะเป็นการขายโปรแกรมทัวร์กับ Travel Agent หรือที่เรียกว่า” WHOLE SALE” โดยทางเอเย่นต์ อาจจะ Request มาเป็นกรุ๊ปเหมา กรุ๊ปจอยหน้าร้าน เป็นแพ็คเก็จ หรือขอให้ทางเราทำโปรแกรมให้ซึ่งทางเราสามารถทำได้หมด “Superb Holiday” คือสุดยอด ดีเยี่ยม วันหยุดที่ดีเยี่ยม ของท่าน เป็นความตั้งใจของเรา

คุณจักรพันธ์ ประสิทธิ์วรนันท์ (คุณตั้ม) ผู้บริหารรุ่นใหม่แห่ง Zego Travel

คุณจักรพันธ์ ประสิทธิ์วรนันท์ หรือคุณตั้ม กรรมการผู้จัดการ Zego Travel Co.,Ltd. จบการศึกษามัธยมปลายโรงเรียนเซ็นคาเบรียล สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน(เอกโฆษณา) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประสบการณ์การทำงาน พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน (Flight Attendent) First Class เส้นทางยุโรปเกือบ10ปี ที่การบินไทย ในขณะที่ทำงานอยู่ที่การบินไทย เป็นช่วงเวลาที่มีโอกาสได้เดินทางไปยังหลายเมืองหลายประเทศ แต่ละประเทศก็มีความสวย ความงดงาม ของแต่ละประเทศแตกต่างกันออกไป ทำให้ตัดสินใจเปิดบริษัททัวร์ Zego Travel Co.,Ltd Zego Travel คือบริษัททัวร์ที่ขายทัวร์และตั๋วเครื่องบิน ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี คุณตั้มได้กล่าวอย่างอารมณ์ดีกับ “BIZ” ON HOLIDAY MAGAZINE ว่า “เริ่มต้นมีพนักงาน 2-3 คน ปัจจุบันมีพนักงาน 150 คน เริ่มแรกออฟฟิศอยู่ตึก GP House ที่ซอยสวนพลู ประมาณ 2-3 ปี และได้ย้ายมาเป็นโฮมออฟฟิศ ที่นนทรีซอย 16 ประมาณ2-3ปี เช่นกัน ปัจจุบันคือที่ที่3 อยู่ช่องนนทรี 10 ยานนาวา อยู่มาประมาณ 2ปี” คุณผู้อ่านสนใจไปเที่ยวหาซื้อทัวร์ Let’s go group กับทัวร์ใกล้บ้านท่านโดยระบุไปกับ Let’s go group จะได้รับการบริการอย่างประทับใจมั่นใจได้เพราะพนักงานต้อนรับการบินไทยเป็นผู้ดูแลทุกขั้นตอน… Zego Travel Tel:02 408 8001 www.zegotravel.com

The Villa Halal กับภายใต้การบริหารงานของผู้บริหารคนเก่งอย่างเช่น คุณวรวุฒิ(นาวาวี) วชิรวรกุลชัย

จบการศึกษาปริญญาตรีสาขาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร ปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปัจจุบันใกล้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก คณะศึกษาศาสตร์ สาขาเอกพัฒนศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร .... คุณนาวาวี ได้กล่าวอย่างอารมณ์ดีกับทาง “BIZ” ON HOLIDAY MAGAZINE ในฐานะ CEO ของบริษัทฯ ว่า ตนเองได้นำองค์ความรู้ทางด้านการบริหารธุรกิจและความรู้จากการศึกษาในคณะศึกษาศาสตร์ ระดับปริญญาเอก มาประยุกต์ใช้กับการบริหารองค์กรและการจัดการขั้นตอนการผลิตอาหาร ให้มีลักษณะเป็นธุรกิจแบบร่วมสมัย โดยเฉพาะการนำ Thesis ที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยด้านอาหารมุสลิม ภายใต้แนวคิดที่ว่า “อาหารมุสลิมคืออาหารฮาลาล” ถ้ามีโอกาสอยากเรียนเชิญทุกท่านให้แวะเข้ามาลองรับประทานอาหารที่ได้มาตรฐานฮาลาล ทั้งด้านการบริการและสถานที่จะได้สัมผัสความเป็น “The Villa Halal ที่จะคอยให้บริการทุกท่านทั้ง 3 สาขา และทุกท่านสามารถติชมได้ เพื่อที่จะนำไปสู่การปรับปรุงและพัฒนา ซึ่งทีมงานทุกคนตั้งใจอยากให้เป็นร้านอาหารฮาลาลในฝันของมุสลิมทุกคน ถ้าผ่านทางมอเตอร์เวย์ หมายเลข6 สามารถแวะใช้บริการที่สาขามอเตอร์เวยส์ได้ และได้กล่าวทิ้งท้ายสำหรับผู้ที่ จะเดินทางไปทำฮัจย์ หรืออุมเราะฮ ในขณะรอขึ้นเครื่อง หรือ Transit แวะมาทานอาหารที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทางร้านมีอาหาร ไว้เตรียมบริการทุกท่าน เพื่อความพร้อมก่อนการเดินทาง …..

Image Gallery